ความเชื่อผิด ๆ ที่คุณต้องเสียใจจนวันตาย
ถ้ารู้แล้วก็เลิกซะ อย่าให้ลูกกินสิ่งนี้ผู้คนบนโลกออนไลน์กระหน่ำแชร์ เรื่องราวน่าสลดใจ ทารกเพศชายที่เพิ่งคลอดได้ 10 วัน เสียชีวิตเพราะอาหารไม่ย่อย หลังยายดื้อรั้นป้อนกล้วยบดแทนนม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย เมื่อมีข่าวเด็กทารกแรกเกิดวัยเพียง 10 วัน เสียชีวิตหลังจากยายของเด็กดื้อรั้นไม่ยอมให้หลานชายที่เพิ่งคลอดได้ 10 วัน ดื่มนมจากเต้าของผู้เป็นแม่แต่ให้ป้อนกล้วยบดแทน จนน้ำหนักของเด็กเมื่อแรกคลอดคือ 1.8 ก.ก. ลดลงเหลือ 1.3 ก.ก.หลังจากนั้นสถานการณ์เลวร้ายลง เมื่อเด็กได้ถ่ายออกมามีกลิ่นฉุนและมีเลือดปน จนต้องนำตัวส่งไปยังห้องฉุกเฉินแต่กลับสายเกินไปเพราะเด็กมีเลือดออกทางปาก จมูกและทวารหนัก
อย่างไรก็ตามผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ ลิอา อิเมลดา ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวนี้เพื่อเตือนเป็นอุทธาหรณ์ต่อผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกันเด็กทารก โดยบอกว่า คนสมัยก่อนอาจบดกล้วยน้ำว้าป้อนเด็กได้ เพราะไม่มีการใช้ยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งผู้ใช้รายนี้ไม่เห็นด้วยกับการเลี้ยงเด็กด้วยวิธีนี้
หากป้อนกล้วยให้แก่ทารกเร็วเกินไปส่งผลอะไรบ้าง?
แม้ว่าผู้ใหญ่รุ่นเก่าๆ จะบอกว่าเลี้ยงลูกหลานมาก็ ป้อนกล้วยตั้งแต่เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนทั้งนั้น ซึ่งก็จัดว่าที่โชคดีเด็กเหล่านั้นไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง แต่ถ้าหากลูกของเราโชคไม่ดีขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มาดูกันค่ะ
1.ลำไส้อุดตัน เนื่องจากกล้วยที่ทานเข้าไปไม่สามารถย่อยและดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้ของทารกได้ จึงไปขัดขวางการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้อุดตัน ซึ่งถ้ารุนแรงมากอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลำไส้ หากรักษาไม่ทันอาจเกิดลำไส้แตกทะลัก เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
2.ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ เกิดจากเด็กทารกอายุน้อยยังไม่พร้อมในการทาน และการกลืนอาหารเสริม ทำให้สำลักกล้วยที่ป้อน ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ สมองขาดออกซิเจน อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต กลายเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชายนิทรา หรือเป็นปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้3.ขาดสารอาหารที่จำเป็น เนื่องจากเด็กวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากนมแม่เป็นหลัก หากให้ทานกล้วยจนอิ่มมากเกินไป จะทำให้เด็กทานนมได้น้อย และขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้
ถ้ารู้แล้วก็เลิกซะ อย่าให้ลูกกินสิ่งนี้ผู้คนบนโลกออนไลน์กระหน่ำแชร์ เรื่องราวน่าสลดใจ ทารกเพศชายที่เพิ่งคลอดได้ 10 วัน เสียชีวิตเพราะอาหารไม่ย่อย หลังยายดื้อรั้นป้อนกล้วยบดแทนนม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย เมื่อมีข่าวเด็กทารกแรกเกิดวัยเพียง 10 วัน เสียชีวิตหลังจากยายของเด็กดื้อรั้นไม่ยอมให้หลานชายที่เพิ่งคลอดได้ 10 วัน ดื่มนมจากเต้าของผู้เป็นแม่แต่ให้ป้อนกล้วยบดแทน จนน้ำหนักของเด็กเมื่อแรกคลอดคือ 1.8 ก.ก. ลดลงเหลือ 1.3 ก.ก.หลังจากนั้นสถานการณ์เลวร้ายลง เมื่อเด็กได้ถ่ายออกมามีกลิ่นฉุนและมีเลือดปน จนต้องนำตัวส่งไปยังห้องฉุกเฉินแต่กลับสายเกินไปเพราะเด็กมีเลือดออกทางปาก จมูกและทวารหนัก
อย่างไรก็ตามผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ ลิอา อิเมลดา ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวนี้เพื่อเตือนเป็นอุทธาหรณ์ต่อผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกันเด็กทารก โดยบอกว่า คนสมัยก่อนอาจบดกล้วยน้ำว้าป้อนเด็กได้ เพราะไม่มีการใช้ยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งผู้ใช้รายนี้ไม่เห็นด้วยกับการเลี้ยงเด็กด้วยวิธีนี้
หากป้อนกล้วยให้แก่ทารกเร็วเกินไปส่งผลอะไรบ้าง?
แม้ว่าผู้ใหญ่รุ่นเก่าๆ จะบอกว่าเลี้ยงลูกหลานมาก็ ป้อนกล้วยตั้งแต่เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนทั้งนั้น ซึ่งก็จัดว่าที่โชคดีเด็กเหล่านั้นไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง แต่ถ้าหากลูกของเราโชคไม่ดีขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มาดูกันค่ะ
1.ลำไส้อุดตัน เนื่องจากกล้วยที่ทานเข้าไปไม่สามารถย่อยและดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้ของทารกได้ จึงไปขัดขวางการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้อุดตัน ซึ่งถ้ารุนแรงมากอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลำไส้ หากรักษาไม่ทันอาจเกิดลำไส้แตกทะลัก เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
2.ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ เกิดจากเด็กทารกอายุน้อยยังไม่พร้อมในการทาน และการกลืนอาหารเสริม ทำให้สำลักกล้วยที่ป้อน ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ สมองขาดออกซิเจน อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต กลายเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชายนิทรา หรือเป็นปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้3.ขาดสารอาหารที่จำเป็น เนื่องจากเด็กวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากนมแม่เป็นหลัก หากให้ทานกล้วยจนอิ่มมากเกินไป จะทำให้เด็กทานนมได้น้อย และขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้
